Amazing Thailand

ติดตามข่าวสาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ที่นี่

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

งานมหกรรมสินค้าวิสาหกิจชุมชน จังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 1

งานมหกรรมสินค้าวิสาหกิจชุมชน จังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 1
วันที่ 3 - 7 มีนาคม 2554

สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านแพ้วร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดสมุทรสาคร กำหนดจัดงานมหกรรมสินค้าวิสาหกิจชุมชน จังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 3 - 7 มีนาคม 2554 ณ ลานหน้าวัดธรรมจริยาภิรมย์ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เวลา 08.00 - 22.00 น. เพื่อเป็นการกระจายช่องทางการค้าและประชาสัมพันธ์สินค้าวิสาหกิจชุมชนให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อีกทั้งเพื่อผลักดันให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรทางเลือกใหม่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

นางสาวอังคณา พุ่มผกา ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสมุทรสงคราม (สมุทรสงคราม นครปฐม สมุทรสาคร) เปิดเผยว่า ในแต่ละอำเภอของจังหวัดสมุทรสาครจะมีสินค้าที่มีชื่อเสียงแตกต่างกัน คือ อำเภอเมืองฯ มีชื่อเสียงทางด้านอาหารทะเลและอาหารทะเลแปรรูป อำเภอกระทุ่มแบนมีชื่อเสียงทางด้านเครื่อง เบญจรงค์ และอำเภอบ้านแพ้วมีชื่อเสียงทางด้านผักและผลไม้นานาพันธุ์ ซึ่งของมีชื่อเสียงทั้ง 3 อำเภอได้ถูกรวบรวมอยู่ในงานมกรรมสินค้าวิสาหกิจชุมชน จังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 1 กว่า 200 คูหา โดยเฉพาะผักและผลไม้ นักท่องเที่ยวสามารถลองลิ้มชิมรสได้อย่างราคาย่อมเยากับเกษตรกรผู้ปลูกโดยตรง อีกทั้งได้เรียนรู้และฝึกอบรมกับศูนย์เรียนรู้ต่าง ๆ ที่จะหมุนเวียนมาถ่ายทอดให้กับนักท่องเที่ยวตลอดการจัดงาน อาทิ ศูนย์เรียนรู้ขนมต่าง ๆ บ้านไทรทอง ศูนย์เรียนรู้การแกะสลักกะลา ศูนย์เรียนรู้วิสาหกิจชุมชนกลุ่มไม้กลึง เทศบาลตำบลบ้านแพ้ว และภายในงานนักท่องเที่ยวสามารถรับประทานผลไม้ต่างๆ เช่น ลำไย องุ่น มะพร้าว กล้วย ส้ม ชมพู่ มะม่วง ฯลฯ เพียงอิ่มละ 20 บาท นอกจากนี้ยังมีเรือพานักท่องเที่ยวชมสวนผลไม้ในเขตอำเภอบ้านแพ้วอีกด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านแพ้ว โทร. 0 3448 1033 หรือ คุณสมศักดิ์ ทองคำ โทร. 08 9889 6831 หรือ ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8 E-mail : tatsmsk@tat.or.th หรือ Call Canter 1672

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พระราชวังสวยกล้วยไม้งามนครปฐม 54

พระราชวังสวยกล้วยไม้งามนครปฐม 54
วันที่ 2-6 มีนาคม 2554

จังหวัดนครปฐม “เมืองแห่งกล้วยไม้” เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีผลผลิตกล้วยไม้ส่งออกมากที่สุดในประเทศ อีกทั้งเกษตรกรในจังหวัดนครปฐมยังสามารถปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่ๆ ให้มีความสวยงามและหลากหลาย เป็นที่ต้องการของตลาดกล้วยไม้เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อเผยแพร่ศักยภาพด้านการผลิตกล้วยไม้ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดย สำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม ร่วมกับสมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมผู้ประกอบการสวนกล้วยไม้ไทย สมาคมกล้วยไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ จังหวัดนครปฐม กลุ่มผู้ปลูกกล้วยไม้จังหวัดนครปฐม และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม กำหนดจัดงาน “พระราชวังสวยกล้วยไม้งามนครปฐม 54” ระหว่างวันที่ 2-6 มีนาคม 2554 เวลา 08.00-20.00 น. ณ พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม

นางสาวอังคณา พุ่มผกา ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม (สมุทรสงคราม นครปฐม สมุทรสาคร) เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เนื่องจากได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยได้รับความอนุเคราะห์พื้นที่ภายในพระราชวังสนามจันทร์ ให้เป็นสถานที่ จัดแสดงกล้วยไม้นานาพันธุ์จากผู้ประกอบการกล้วยไม้ในจังหวัดนครปฐมที่ร่วมใจกันจัดอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ โดยภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ชมการประกวดกล้วยไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ การประกวดกล้วยไม้หมู่ การประกวดจัดสวนกล้วยไม้ทั้งในแบบสวนน้ำตก-สวนพักผ่อน และการประกวดจัดดอกไม้หัวข้อ “กล้วยไม้งามคู่เมืองปฐมนคร” นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ความรู้การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ สอนการจัดดอกไม้ ฟรี!! (วันละ 2 รอบ เช้า-บ่าย) ที่สำคัญยังสามารถเข้าชมสถาปัตยกรรมภายนอกและภายในพระราชวังสนามจันทร์ที่ถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามด้วยมวลหมู่กล้วยไม้ในบรรยากาศอันร่มรื่นในช่วงกลางวันและยามค่ำคืน โดยมีค่าเข้าชมในอัตราปกติ ผู้ใหญ่ 30 บาท , เด็ก พระภิกษุ นักศึกษา 10 บาท และชาวต่างประเทศ 50 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม โทร. 0 3425 3992 , 0 3425 9613 หรือ พระราชวังสนามจันทร์ โทร. 0 3424 4236-7 หรือ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8 E-mail : tatsmsk@tat.or.th หรือ Call Center 1672 เบอร์เดียว เที่ยวทั่วไทย

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เทศกาลเที่ยวระนอง ท่องอันดามัน ๒๕๕๔

เทศกาลเที่ยวระนอง ท่องอันดามัน ๒๕๕๔ วันที่ ๑๘ – ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๔

...จังหวัดระนองนับว่าเป็นดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์เมืองเล็กในป่าใหญ่บนเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติอันสวยสด งามหมดจดชนวิถี มีดีน้ำแร่ เสน่ห์เกาะพยาม งามตระการภูเขาหญ้า กาหยูหวาน แสนสราญชุ่มฉ่ำ “ฝนแปดแดดสี่ ”...

จังหวัดระนอง ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง เทศบาลเมืองระนอง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานชุมพร หน่วยงานภาครัฐและเอกชนจังหวัดระนอง ร่วมกันจัดงานเทศกาลเที่ยวระนอง ท่องอันดามัน ประจำปี ๒๕๕๔ ระหว่างวันที่ ๑๘ – ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๔ ณ ลานเอนกประสงค์เทศเมืองระนอง จังหวัดระนอง เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดระนอง สร้างความรับรู้ด้านศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น มนต์เสน่ห์แหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ประเพณีวัฒนธรรมอันงดงามของชาวจังหวัดระนอง รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับชุมชนพื้นที่ กิจกรรมที่น่าสนใจภายในงานอาทิ ตลาดย้อนยุค การแสดงทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน แสง สี เสียง อิ่มอร่อยเลิศรสกับเมนูพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง สัมผัสธุรกิจสปาน้ำแร่คุณภาพอันดับโลกและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอื่นๆ อีกมาย

นายอุทัย วรมาศกุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานชุมพร กล่าวว่าจังหวัดระนองเป็นจังหวัดที่มีมนต์เสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อมากมาย อาทิ สปาน้ำแร่ที่มีคุณภาพระดับโลกทั้งบ่อน้ำร้อน ณ สวนสาธารณะรักษะวาริน และ บ่อน้ำร้อนพรรั้ง , แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เช่น พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) ศึกษาความเป็นมาของเจ้าเมืองระนอง ณ จวนเจ้าเมืองระนอง , แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติพลับพลึงธารแห่งคลองนาคา(ตุลาคม – ธันวาคมของทุกปี) เกาะช้างและเกาะพยามความงดงามและเงียบสงบเปรียบดังสรรค์ที่ซ่อนเร้นแห่งทะเลอันดามัน นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนอีกมายไม่ว่าจะเป็น โฮมสเตย์ชุนชนมุสลิมบ้านม่วงกลวง อ. กะเปอร์ และอีกมากมายที่อยากจะเชิญนักท่องเที่ยวมาเยือนสักครั้ง เทศกาลเที่ยวระนอง ท่องอันดามันประจำปี ๒๕๕๔ ในครั้งนี้ จึงเปรียบเสมือนการเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของจังหวัดระนองเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่า “เมืองเล็กในป่าใหญ่” หรือ “เมืองฝนแปดแดดสี่” อย่างแท้จริง

สอบถามรายละเอียดได้ที่
จังหวัดระนอง โทรศัพท์ ๐ ๗๗๘๑ ๑๑๒๓
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานชุมพร โทรศัพท์ ๐ ๗๗๕๐ ๒๗๗๕-๖
เทศบาลเมืองระนอง โทรศัพท์ ๐ ๗๗๘๑ ๑๔๒๒
องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง โทรศัพท์ ๐ ๗๗๘๑ ๒๓๗๑

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

โลกทะเลชุมพร ประจำปี ๒๕๕๔

“โลกทะเลชุมพร ประจำปี ๒๕๕๔”
วันที่ ๑๘ – ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๔

“ประตูสู่ภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟ แลหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือนาง ขึ้นชื่อรังนก” นี่คือคำขวัญที่ผู้มาเยือนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี โดยอย่างยิ่งจังหวัดชุมพรเป็นจังหวัดแรกในการเดินทางเยือนถิ่น ดินแดนทักษิณ เป็นประตูสู่การเดินทางท่องเที่ยวชมความงดงามและความมหัศจรรย์แดนใต้สยามประเทศ

จังหวัดชุมพร ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เทศบาลเมืองชุมพร อำเภอปะทิว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานชุมพร หน่วยงานภาครัฐและเอกชนจังหวัดชุมพร ร่วมกันจัดงานโลกทะเลชุมพร ประจำปี ๒๕๕๔ ระหว่างวันที่ ๑๘ – ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๔ ณ หาดทุ่งวัวแล่น อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร สร้างความรับรู้ด้านศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งท่องเที่ยวประเภทหาดทรายชายทะเล โดยจังหวัดชุมพรนับเป็นพื้นที่สำหรับการดำน้ำชมปะการังที่ดีที่หนึ่งในเมืองไทย นอกจากนั้นยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น แหล่งท่องเที่ยวชุมชน แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม กิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่ กิจกรรมดำน้ำปล่อยสัตว์น้ำคืนสู่ทะเลชุมพร อาทิ ปลา เต่า หอยมือเสือ ปลาการ์ตูน กิจกรรมเก็บขยะใต้ท้องทะเลชุมพร ปลุกป่าชายเลน กิจกรรมแข่งขันแรลลี่รถยนต์ กิจกรรมออกร้านสินค้า อาหารทะเลสด นิทรรศการการท่องเที่ยวจากหน่วยงานต่างๆ การแสดงแสงสีเสียง Music On The Beach กิจกรรมแข่งขันกีฬาทางน้ำเพื่อการท่องเที่ยว กิจกรรมประกวดภาพถ่าย พร้อมทั้งแพ็คเกจทัวร์โลกทะเลชุมพรราคาพิเศษ ฯลฯ

นายอุทัย วรมาศกุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานชุมพร กล่าวว่าจังหวัดชุมพรเป็นประตูสู่ดินแดนทักษิณ มีแหล่งท่องเที่ยว ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายชายทะเล นิเวศน์ป่าเขา พื้นที่ลุ่มน้ำ ประเพณีวัฒนธรรม และ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีกิจกรรมท่องเที่ยว อาทิ เที่ยวศึกษาป่าชายเลน ดำน้ำ ล่องเรือ ตกปลาหมึก ณ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร กิจกรรมล่องแพพะโต๊ะ ศึกษาประวัติศาสตร์ ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติชุมพร สักการะศาลกรมหลวงชุมพร ฯ บริเวณหาดทรายรี ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และการท่องเที่ยวชุมชนเชิงเกษตรสวนลุงนิล อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ฉายา “คอนโดเก้าชั้น” ผู้นำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้จนประสบความสำเร็จในชีวิต การันตีคุณภาพโดย รางวัลกินรี (Tourism Awards 2010) ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ดีเด่น รวมไปถึงกิจกรรม Home stay ที่น่าสนใจอีกมาก ซึ่งจังหวัดชุมพรมีโฮมสเตย์ที่รอนักท่องเที่ยวมาสัมผัสวิถีชิวิตชุมชนมากมาย อาทิ วิถีชีวิตชาวประมง ที่ โฮมสเตย์เกาะพิทักษ์ โฮมสเตย์บ้านท้องตมใหญ่ โฮมสเตย์บ้านในไร่ หรือ วิถีชีวิตเกษตรลุ่มน้ำพะโต๊ะ โฮมสเตย์บ้านคลองเรือทีได้รับรางวัลการันตีคุณภาพ ด้วยรางวัลกินรี (Tourism Awards) ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ในปี ๒๕๔๙ ภายใต้แนวคิด “คนอยู่ ป่ายัง” งานโลกทะเลชุมพร ประจำปี ๒๕๕๔ ครั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเปิดประตูการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สัมผัสมนต์เสน่ห์ของท้องทะเลและแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดชุมพร ดังสโลแกน ททท. ที่ว่า “ เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สำนักงานจังหวัดชุมพร โทรศัพท์ ๐ ๗๗๕๑ ๑๕๕๑
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานชุมพร โทรศัพท์ ๐ ๗๗๕๐ ๒๗๗๕-๖
เทศบาลเมืองชุมพร โทรศัพท์ ๐ ๗๗๕๑ ๑๐๒๔
องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร โทรศัพท์ ๐ ๗๗๕๐ ๖๐๙๐

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

“พิสูจน์ รักแท้... ภูกระดึง” และ “มนต์เสน่ห์แห่งรัก ณ ภูหลวง”

“พิสูจน์ รักแท้... ภูกระดึง”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลย ขอเชิญคู่รักเดินเท้า “พิสูจน์ รักแท้ ...ภูกระดึง” จ.เลย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นี้
นางอัจฉพรรณ บุญเจริญ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย กล่าวว่า ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ถึงหลังแป
มีระยะทาง 5.5 กิโลเมตร เหมาะสำหรับคู่รักที่ชอบการผจญภัย และรับรองว่า เมื่อ “พิชิตยอดภู” แล้วจะได้ร่วมกันชื่นชมบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ได้แก่ ผานกแอ่น ผาหล่มสัก สระอโนดาต และน้ำตกต่างๆ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทร. 0-4287-1333, 0-4287-1458 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย โทร. 0-4281-2812/0-4281-1405 email:tatloei@tat.or.th


“มนต์เสน่ห์แห่งรัก ณ ภูหลวง”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนักงานเลย ขอเชิญคู่รักชื่นชมทุ่งกุหลาบขาว กุหลาบแดง ในบรรยากาศ “มนต์เสน่ห์แห่งรัก ณ ภูหลวง” ของ จังหวัดเลย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม นี้
นางอัจฉพรรณ บุญเจริญ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย กล่าวว่า เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูหลวง อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กุหลาบป่า หรือกุหลาบพันปีที่จะบานสะพรั่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน นั้น กุหลาบขาวจะบานออกดอกจำนวนมาก โคกพรหมจรรย์ เป็นสถานที่ที่มีกุหลาบขาวล้วน ๆ หนาแน่นเต็มทั่วบริเวณ นอกจากนี้ ในช่วงฤดูร้อนจะเห็นกล้วยไม้พันธุ์หายากอีกนานาชนิด การเดินทางก็ไม่ยาก จาก จ.เลย ไปตามเส้นทางหมายเลข 203 (เลย-ภูเรือ) ระยะทางประมาณ 36 กม. ถึงบ้านสานตม แล้วแยกซ้ายที่บ้านสานตมไปอีก 18 กม. ถึงด่านตรวจห้วยทองและเดินทางต่อไปอีก 10 กม. จะถึงหน่วยพิทักษ์ฯ โคกนกกระบา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง โทร. 0-4280-1955, 08-52725946) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย โทร. 0-4281-2812/0-4281-1405 email:tatloei@tat.or.th

วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ประจำปี ๒๕๕๔

จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ประจำปี ๒๕๕๔

ในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
ณ ศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์

ททท. ขอเชิญคู่รักร่วมสืบสานประเพณีแต่งงานแบบชาวกวย หรือ พิธีซัตเต และจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดโครงการแต่งงานและ “จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง” ประจำปี ๒๕๕๔ ในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ณ ศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการแต่งงานของชนพื้นเมืองสุรินทร์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์

นางสาวบุณยานุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสุรินทร์ กล่าวว่า พิธีแต่งงาน แบบชาวกวยโบราณ หรือพิธีซัตเต เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดสุรินทร์ จะเริ่มเมื่อคู่หนุ่มสาวชาวกวย ตกลงแต่งงานกัน เจ้าบ่าวมาสู่ขอเจ้าสาวจากผู้ใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะเริ่มสร้างกระท่อมเพื่อประกอบพิธีในบริเวณลานบ้านเจ้าสาวด้วยตนเองจนเสร็จ และในวันแต่งงาน เจ้าบ่าว เจ้าสาว จะสวมชุดชาวกวยพื้นเมือง เจ้าบ่าวจะเดินทาง (ถ้ามีช้างจะนั่งช้าง) จากบ้านตนเองไปบ้านเจ้าสาว จากนั้นพราหมณ์ผู้ประกอบพิธี จะพาเจ้าสาวลงมาจากบ้านไปยังกระท่อมเพื่อประกอบพิธีกรรม เริ่มด้วยเจ้าบ่าวจะสวมด้ายมงคล เจ้าสาว จะสวมจะลอม (มงกุฎที่ทำจากใบตาล) จะมะ (แก้ว แหวน สร้อย ต่างหู หรือเครื่องประดับที่เจ้าบ่าวนำมาให้) แล้วเริ่มตรวจนับสินสอดเครื่องประกอบต่าง ๆ จากนั้นพราหมณ์จะเริ่มพิธีบายศรีสู่ขวัญตามแบบชาวกวย พิธีถอดกระดูกคางไก่เสี่ยงทายชีวิตคู่ แล้วผูกข้อมือผู้ใหญ่ เพื่อน และอวยพรให้คู่บ่าวสาวตามลำดับจนเสร็จ สุดท้ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวนั่งช้างเดินทางไปยังวังทะลุ (บริเวณที่ลำน้ำมูลและลำน้ำชีไหลมาบรรจบกัน) เพื่อบอกกล่าวเจ้าที่ให้รับทราบถึงการครองคู่สามีภรรยาจึงถือเป็นการเสร็จสิ้นพิธี

ททท. จึงขอเชิญชวนคู่รักที่แต่งงานแล้วหรือกำลังวางแผนแต่งงาน ร่วมกันสร้างสรรค์ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตรักที่เรียบง่ายแต่มีมนต์ขลัง สมัครเข้าร่วมพิธีสมรสหมู่และจดทะเบียนสมรส บนหลังช้าง ซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านเมืองและเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ ชีวิตของคู่บ่าวสาวท่ามกลางบรรยากาศพิธีแต่งงานแบบชาวกวย ได้แก่ ขบวนช้างแห่เจ้าบ่าว พิธีบายศรีสู่ขวัญ อันศักดิ์สิทธิ์และพิธีแต่งงานแบบชาวกวย ร่วมบันทึกภาพประวัติศาสตร์การจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย งานเลี้ยงรับรองอาหารกลางวันแก่คู่สมรสพร้อมรับของที่ระลึกจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น (ยกเว้นค่าใช้จ่ายเฉพาะการแต่งกายของ คู่บ่าวสาวเท่านั้น) สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์และที่ว่าการอำเภอทุกแห่งในจังหวัดสุรินทร์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
• องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โทร. ๐ ๔๔๕๑ ๑๙๗๕, ๐ ๔๔๕๑ ๔๕๒๔ www.surinpao.org
• ททท. สำนักงานสุรินทร์ โทร. ๐ ๔๔๕๑ ๔๔๔๗-๘

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ชมพูภูคาบานบนอุทยานแห่งชาติดอยภูคา

ชมพูภูคาบานบนอุทยานแห่งชาติดอยภูคา



วันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ 2554

ททท.สำนักงานแพร่ เชิญนักท่องเที่ยวชมชมพูภูคาบาน ที่จังหวัดน่าน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ เชิญชวนนักท่องเที่ยว และผู้สนใจสัมผัสความงามดอกชมพูภูคาบานบนอุทยานแห่งชาติดอยภูคา แห่งเดียวในเมืองไทย ในเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงเดือน มีนาคม 2554

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ ซึ่งรับผิดชอบการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ กล่าวว่า จังหวัดน่านได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไทย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสวัฒนธรรม และความสวยงามของธรรมชาติ นับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในภาคเหนือ ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในอัตราที่สูง และในเดือนกุมภาพันธ์ อันเป็นเดือนแห่งความรักไปจนถึงเดือนมีนาคม 2554 นักท่องเที่ยวต่างรอคอยที่จะมาสัมผัสความงามของดอกชมพูภูคา ซึ่งเป็นต้นไม้ที่หายากมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่จังหวัดน่าน ในปีนี้มีความพิเศษคืออุทยานแห่งชาติดอยภูคา จะเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นทางใหม่ ระยะเดินเท้าประมาณ 600 เมตร จากป้ายลานดูดาว ไปยังต้นชมพูภูคา

ต้นชมพูภูคาเป็นพืชหายากชนิดหนึ่งของโลก มีดอกสีชมพูอมขาว พบแห่งเดียวที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัว จ.น่าน เคยค้นพบในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศจีนและตอนเหนือของประเทศเวียดนาม จากนั้นก็ไม่มีการค้นพบอีกเลยและอาจจะสูญพันธ์จากโลกไปแล้ว จนในปี 2552 ได้มีการค้นพบอีกครั้งโดย ดร.ธวัชชัย สันติสุข นักพฤกษศาสตร์คนสำคัญของประเทศไทย ณ อุทยานแหงชาติดอยภูคาแห่งนี้
นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ 2554 เทศบาลตำบลปัว ได้จัดงาน “เทศกาลชมพูภูคาบาน” ในช่วงดอกชมพูภูคาบานอีกด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรมไทยลื้อไปพร้อมกับการชมดอกชมพูภูคา ภายในงาน มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ การแสดงวัฒนธรรมไทยลื้อ การแสดงแสงสีเสียง การจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น ณ ที่ว่าการอำเภอปัว จังหวัดน่าน

นักท่องเที่ยวที่สนใจธรรมชาติ นอกจากดอกชมพูภูคาแล้ว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ยังมีพืชพันธุ์ต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิ เต่าร้างยักษ์ ซึ่งเป็นปาล์มที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ มีลำต้นสูงใหญ่กว่าต้นเต่าร้างทั่วไปถึง 2 เท่า เมื่อโตเต็มที่จะสูงประมาณ 8-12 เมตร เมเปิ้ล (ก่วมภูคา) ซึ่งต้นเมเปิ้ลนี้ พิเศษตรงที่ว่า เมื่อตอนต้นเล็กใบจะมี 5 แฉก และเป็นสีแดงทั้งต้น เมื่อโตขึ้นมาใบจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวและเหลือเพียง 3 แฉก แต่พอแก่มาใบจะกลับเป็นสีแดงอีกครั้ง

นักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานแพร่ โทรศัพท์ 0 5452 1118, 0 5452 1127 , อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 0 5470 1000, 0 5473 1362 , เทศบาลตำบลปัว โทร. 0 5479 1400

วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ปายรักสุดขอบฟ้า Season 0f love @ Pai #3

ปายรักสุดขอบฟ้า Season 0f love @ Pai #3


ในระหว่างวันที่ 13 - 15 กุมภาพันธ์ 2554


อำเภอปายหนึ่งในเจ็ดอำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นเมืองแห่งธรรมชาติขุนเขา วัฒนธรรมที่มีอากาศบริสุทธิ์ บรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตนเอง จึงทำให้อำเภอปายเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่ต้องการมาเยือนและสัมผัสสักครั้งในชีวิต ซึ่งในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังอำเภอปายเป็นจำนวนมาก อำเภอปายจึงเปรียบเสมือนดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวและคู่รักที่แสวงหาสถานที่สวยงามตลอดจน บรรยากาศโรแมนติก
ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอนจึงได้ร่วมกับอำเภอปาย ชมรมท่องเที่ยวปายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดจัดงาน “เทศกาลปาย…รักสุดขอบฟ้าปี 3” (Season of Love @ Pai#3) ระหว่างวันที่ 13 - 15 กุมภาพันธ์ 2554 ณ อำเภอปาย เพื่อตอกย้ำถึงบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกที่สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ด้วยการจัดพิธีแต่งงานและจดทะเบียนสมรสในรูปแบบสุดพิเศษแก่คู่รัก โดยมีพิธีแต่งงานที่อำเภอปายท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติแห่งขุนเขา สายน้ำ สายหมอก และดอกไม้ อันแสนโรแมนติก

สำหรับคู่รักที่เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสกับพิธีวิวาห์สุดแสนประทับใจตลอด 3 วัน 2 คืนในรีสอร์ทสุดหรูระดับ 5 ดาวของอำเภอปาย โดยมีกิจกรรมต่างๆดังนี้ การร่วมตักบาตรพระภิกษุสามเณรจำนวน 1,111 รูป ณ ถนนคนเดินปาย เยี่ยมชมและรับประทานอาหารจีนยูนานที่หมู่บ้านจีนยูนานสันติชน พิธีแต่งงานแบบไทยใหญ่ที่วัดหลวงโดยคู่รักทั้งหมดจะสวมใส่ชุดแต่งงานแบบไทยใหญ่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น พร้อมพิธีผูกข้อมือรับพรจากผู้เฒ่าแม่เฒ่าชาวปาย จากนั้นนำคู่รักเข้าสู่ขบวนแห่มงคลสมรสรูปแบบไทยใหญ่เพื่อให้ชาวอำเภอปายและนักท่องเที่ยวร่วมแสดงความยินดี การจดทะเบียนสมรสหมู่ ณ สะพานประวัติสาสตร์ปาย กิจกรรมล่องแพชมความงามสองฝั่งแม่น้ำปาย ร่วมปลูกต้นไม้ “ปลูกรัก ปลูกปาย” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและมินิคอนเสิร์ตเพลงรัก “สายน้ำขุนเขา เราเป็นหนึ่งเดียวกัน” โดยศิลปินเสียงหวาน “ปนัดดา เรืองวุฒิ”

ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน ขอเชิญคู่รักและนักท่องเที่ยวทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมสมรส ในงาน “เทศกาลปาย...รักสุดขอบฟ้าปี3” ช่วงเทศกาลแห่งความรัก ระหว่างวันที่ 13 - 15 กุมภาพันธ์ 2554 โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 20,000 บาทต่อคู่รักเท่านั้น นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บ้านกุงแกง เดอ ปาย 053 - 064450, 086 – 9923896, มอนทีส รีสอร์ท 053 - 064456, เบลล์วิลล่า 053 - 698226 - 7ปายวิมาน รีสอร์ท 053 - 699403, ปายบ้านไทย รีสอร์ท 053 - 699970 - 2และ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร.053 - 612982 - 3 www.travelmaehongson.org

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร ปี ๒๕๕๔

มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร ปี ๒๕๕๔
ระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
ณ สวนศรีธรรมาโศกราชและวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร


กิจกรรมตลอดงาน ระหว่างเวลา ๑๖.๐๐ น. – ๒๑.๐๐ น.
  • นิทรรศการผ้าพระบฏนานาชาติ มากสไตล์หลายหลากความมหัศจรรย์ เช่น ผ้าพระบฏทองคำ ผ้าพระบฏยักษ์ จากสวนโมกขพลาราม
  • การตามประทีปโคมไฟ และลอยโคม ๑๒ นักษัตร
  • ตลาดนัดโบราณขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง
  • สาธิตการทำผ้าพระบฏจากทุกภูมิภาค
  • การแสดงศิลปวัฒนธรรม
  • กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงพุทธ “นั่งรถชมเมือง เล่าเรื่องลิกอร์”
  • กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เส้นทาง ๒ พระ ๓ เทพ /เส้นทาง ๔ กาพาเที่ยว
  • กิจกรรมท่องเที่ยวตามรอยกินรี ๓ พิพิธภัณฑ์ สร้างสรรค์เดิมพันใจ
  • งานแสดงศิลปกรรมพุทธบูชา “งอกเงยด้วยธรรม งดงามด้วยศิลป์” ของ กลุ่มจิตรกรไทย

วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ : บุญตามรอยธรรมที่เมืองนคร กับ ว.วชิรเมธี ณ สวนศรีธรรมาโศกราช ตามประทีป ๑๒ นักษัตร และ ลอยโคมบูชาพระบรมธาตุ

๑๘.๓๐ น.
  • การแสดงแสงสีเสียง MINI LIGHT AND SOUND “ศรีธรรมาโศกราช”
๑๙.๐๐ น.
  • ปาฐกถาธรรม “ตามรอยธรรมที่เมืองนคร” โดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)

วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ : บุญเรียนรู้ บูชาผ้าพระบฏ ณ ศูนย์ OTOP สวนศรีธรรมาโศกราช

๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.
  • สัมมนาทางวิชาการ “ผ้าพระบฏบูชา” ว่าด้วยการสร้างทำและบูชาผ้าพระบฏ โดยคณะวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม
  • การแสดงนิทรรศการและสาธิตการสร้างทำผ้าพระบฏนานาชาติและจากทุกภูมิภาคทั่วไทย
  • การแสดงภาพจิตรกรรมไทยชุด “งอกเงยด้วยธรรม งดงามด้วยศิลป์” ของ ๔๐ จิตรกร ชั้นนำของประเทศ
๑๙.๐๐ น.
  • การแสดงทางวัฒนธรรม ๔ ภาค โดย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่, ร้อยเอ็ด, เทพสตรี

วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ : บุญแห่งรัก ณ สวนศรีธรรมาโศกราช

๑๙.๐๐ – ๒๐.๐๐ น.
  • เวทีประชันลีลา “ชวนคนรักเข้าวัด...วันมาฆบูชา” โดยเยาวชนเมืองนคร
๒๐.๐๐ น.
  • เวทีดาราพาธรรมกลับบ้านเกิด โดย เพชรี พรหมช่วย /แทนคุณ จิตต์อิสระ/ ยุทธพิชัย ชาญเลขา/ สุนิสา สุขบุญสังข์ / สมฤทธิ์ ลือชัย / นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช
  • กิจกรรมของเยาวชนคนนคร “ชวนคนรักเข้าวัด” ริเริ่มเพิ่มคุณค่าแห่งรัก ด้วยการทำทาน ถือศีล เจริญจิตภาวนา
๒๑.๐๐ น.
  • ชมชุดการแสดงโขนสัมพันธ์ จากวิทยาลัยนาฏศิลป (นครศรีธรรมราช-พัทลุง)

วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔: บุญสวดด้าน โอ้เอ้วิหารราย

๑๗.๐๐ น.
  • การสมโภชผ้าพระบฏ
  • ๕ กิจกรรม “ธรรมะสรรค์สร้าง” ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
๑๙.๐๐ น.
  • ชมชุดการแสดงโขนสัมพันธ์ จากวิทยาลัยนาฏศิลป (นครศรีธรรมราช-พัทลุง)

วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ : บุญกวนข้าวมธุปายาสยาคู ณ สวนศรีธรรมาโศกราช
๑๗.๐๐ น.
  • การสมโภชผ้าพระบฏ
  • แห่ผ้าพระบฏของภูมิภาคต่างๆ
๑๗.๓๐ น.
  • พิธีกวนข้าวมธุปายาสยาคู ๑๒ กระทะ ๑๒ราศี/นักษัตรตามปีเกิด โดย อาจารย์ คฑา ชินบัญชร
  • พิธีสวดชัยมงคลคาถา โดยพระสงฆ์ไทยและนานาชาติ จาก ศรีลังกา จีน เวียดนาม อินเดีย ฯลฯ
๑๙.๐๐ น.
  • ชมการแสดง MINI LIGHT AND SOUND “ชุดศรีธรรมาโศกราช”

วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ : บุญเครื่องพุทธบูชาผ้าพระบฏ ณ สวนศรีธรรมาโศกราช แห่ผ้าพระบฏของภูมิภาคต่างๆ

๑๓.๐๐ น.
  • พิธีรับผ้าพระบฏพระราชทานจากอำเภอปากพนัง
๑๗.๓๐ น.
  • พิธีมหาพุทธาภิเษกผ้าพระบฏพระราชทาน / ผ้าพระบฏนานาชาติ / ผ้าพระบฏจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยเกจิอาจารย์ชื่อดัง ๘ รูป นั่งปรกบริกรรม
  • ร่วมสวดชัยมงคลคาถา โดยพระสงฆ์ไทย และนานาชาติ
๑๙.๐๐ น.
  • ชมการแสดงทางวัฒนธรรมจากนานาชาติจาก ๔ ชาติ ๒ ฝากฝั่งแหลมทอง ศรีลังกา อินเดีย จีน ญี่ปุ่น
๒๑.๐๐ น.
  • ชมการแสดง MINI LIGHT AND SOUND “ชุดศรีธรรมาโศกราช”
วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ : บุญแห่ผ้าขึ้นธาตุ สีสันแห่งศรัทธา ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

๐๖.๐๐ น.
  • พิธีตักบาตร
๑๕.๐๐ น.
  • พิธีเปิด โดย ฯ พณฯ ธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวรายงาน
๑๖.๐๐ น.
  • ชมริ้วขบวนแห่ผ้าพระบฏ มรดกแห่งศรัทธา ตื่นตากับผ้าพระบฏนานาชาติ และ๔ ภูมิภาคของไทย
  • ชมการแสดงเพื่อเป็นพุทธบูชาจากประเทศศรีลังกา อินเดีย จีน และ การแสดงมโนราห์ จากวิทยาลัยนาฏศิลป์ นครศรีธรรมราช
๑๖.๓๐ น.
  • พิธีถวายผ้าพระบฏเพื่อเป็นเครื่องพุทธบูชา อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่
๑๙.๐๐ น.
  • ปรารภธรรมและเวียนเทียนมาฆบูชา

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ขอเชิญเข้าร่วมประกวด “ต้นพอเพียงจิต”

ขอเชิญเข้าร่วมประกวด “ต้นพอเพียงจิต”
ในงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย



มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (มูลนิธิ ร.2) ขอเชิญเข้าร่วมส่งผลงานเข้าประกวด “ต้นพอเพียงจิต” ในงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ 2554 ผู้ชนะเลิศจะได้รับโล่รางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท

นางสาวอังคณา พุ่มผกา ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม (สมุทรสงคราม นครปฐม สมุทรสาคร) เปิดเผยว่า การประกวดจัดต้นไม้ “ต้นพอเพียงจิต” เป็นการประกวดแบบความคิดสร้างสรรค์ จัดสร้างเป็นประติมากรรม โดยนำผลผลิตทางการเกษตรสร้างสรรค์ความพอเพียงให้บังเกิดในจิตใจของประชาชนชาวไทย สามารถนำพืชผักสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ พืชไร่ พืชสวน ทุกชนิด นำมาจัดตกแต่งในแนวตั้ง ให้มีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร หรือเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร สูงไม่ต่ำกว่า 2 เมตร โดยไม่กำหนดว่าจะจัดลงในภาชนะใดหรือโครงสร้างรูปแบบใด

ผู้สนใจสามารถสมัครโดยนำเสนอแบบแปลนมาตราส่วน 1 : 10 พร้อมระบุแนวคิดการใช้องค์ประกอบของต้นไม้ และเขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล นำส่งแบบแปลนทางไปรษณีย์ ได้ที่สำนักงานมูลนิธิ ร.2 หอวชิราวุธานุสรณ์ ชั้น 2 (บริเวณหอสมุดแห่งชาติ) ท่าวาสุกรี ถนนสามเสน กรุงเทพ ฯ 10300 ภายในวันที่ 20 มกราคม 2554 และจะประกาศผลผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ จำนวน 10 ผลงาน เพื่อจัดประกวดและแสดงผลงานในงานเฉลิมพระเกียรติ ร.2 วันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ 2554 ทั้งนี้ผลงานที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทุกผลงานจะได้รับเกียรติบัตรและเงินสนับสนุนจำนวน 10,000 บาทด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณเริงศักดิ์ กลิ่นพะยอม โทร. 08 1761 4646 หรือที่ คุณอรวรรณ วิชัยลักษณ์ โทร. 08 9490 2241